งานทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน(ข้อมูลด้านการบริการ)

ประกอบด้วยกระบวนการหลัก 2 กระบวน คือ

       1. กระบวนการให้บริการด้านงานทะเบียนราษฎร ประกอบด้วยกระบวนการย่อยดังนี้
             1.1 การกำหนดเลขหมายประจำบ้าน (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.2 การแจ้งรื้อถอนบ้าน หรือบ้านถูกทำลาย (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.3 การแก้ไขรายการบ้าน (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.4 การรับแจ้งการเกิด (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.5 การรับแจ้งการตาย (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.6 การแจ้งย้ายที่อยู่ (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.7 การขอเพิ่มชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.8 การจำหน่ายชื่อและรายการบุคคลออกจากทะเบียนบ้าน (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
             1.9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในเอกสารการทะเบียนราษฎร (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
           1.10 การตรวจ คัดและรับรองเอกสารทะเบียนราษฎร (ค่าธรรมเนียม 20 บาท)
           1.11 การเปรียบเทียบคดีความผิดเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร (ค่าธรรมเนียม 50 บาท)

       2. กระบวนการให้บริการด้านงานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน ประกอบด้วยกระบวนการย่อยดังนี้
             2.1 การขอมีบัตร (ค่าธรรมเนียม 100 บาท)
                   2.1.1 การขอมีบัตรครั้งแรกกรณีผู้ขอมีบัตรมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ (มีหลักฐาน)
                   2.1.2 การขอมีบัตรกรณีเป็นบุคคลได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) หรือแจ้งเกิดเกินกำหนด
                   2.1.3 การขอมีบัตรกรณีเป็นบุคคลซึ่งได้สัญชาติไทย หรือได้กลับคืนสัญชาติไทย ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติหรือตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาล (การได้สัญชาติไทยกรณีอื่นๆ นอกจากการเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย หรือได้กลับคืน สัญชาติเป็นไทย)
             2.2 การขอมีบัตรใหม่ (ค่าธรรมเนียม 100 บาท)
                   2.2.1 การขอมีบัตรใหม่กรณีบัตรเดิมหมดอายุ
                   2.2.2 การขอมีบัตรใหม่กรณีบัตรเดิมสูญหายหรือถูกทำลาย
             2.3 การขอเปลี่ยนบัตร (ค่าธรรมเนียม 100 บาท)
                   2.3.1 การขอเปลี่ยนบัตรกรณีบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ
                   2.3.2 การขอเปลี่ยนบัตรกรณีเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
                   2.3.3 การขอเปลี่ยนบัตรกรณีเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านและบัตรเดิมยังไม่หมดอายุ
                   2.3.4 การขอเปลี่ยนบัตรกรณีอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนบัตรกรณีเปลี่ยนคำนำหน้านาม
             2.4 การขอมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย(ค่าธรรมเนียม 60 บาท)
                   2.4.1 การขอมีบัตรของคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ว่าด้วยคนเข้าเมือง
                   2.4.2 การขอมีบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาวและกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวระหว่างรอส่งกลับเพื่อทำงาน
                   2.4.3 การขอมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน

       3. กระบวนการให้บริการด้านอื่นๆ ประกอบด้วยกระบวนการย่อยดังนี้
             3.1 การขออนุญาตขุดดิน ถมดิน
             3.2 การขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
             3.3 การขออนุญาตใช้เสียง

เจ้าบ้าน

เจ้าบ้าน คือ คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวในบ้านหลังนั้น ซึ่งการครอบครัวนี้อาจจะครอบครอง Mkฐานะเป็นเจ้าของบ้านผู้เช่าบ้าน หรือฐานะอื่นก็ได้ คนที่เป็นเจ้าบ้าน ไม่อยู่ ตาย สูญหาย หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ คนที่ดูแลบ้านหรือที่อยู่ในบ้าน ขณะนั้นเป็นเจ้าบ้าน

หน้าที่ของเจ้าบ้าน

กฎหมาย ทะเบียนราษฎรได้กำหนดให้เจ้าบ้านมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนในเรื่องต่อ ไปนี้ คือ

1. มีคนเกิดในบ้าน

2. มีคนตายในบ้าน

3. มีคนย้ายออก- ย้ายเข้ามาในบ้านหลังนั้น

4. มีการปลูกสร้างบ้านใหม่ หรือรื้อถอนบ้าน

คนที่จะทำหน้าที่เป็น เจ้าบ้าน

โดยปกติแล้วเมื่อมีการแจ้งต่อนายทะเบียน นายทะเบียนก็จะตรวจสอบว่าคนไปแจ้งนั้นเป็นเจ้าบ้านหรือไม่ โดยดูจาก

1. บัตรประชาชนของคนแจ้ง พร้อมทะเบียนบ้านที่นำไปแสดงว่าคนที่ไปแจ้งมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้าน และในช่องรายการ

ระบุว่าเป็น "เจ้าบ้าน" หรือไม่

2. ถ้าไม่ใช่บุคคลตามข้อ 1 ก็จะตรวจดูว่าคนที่ไปแจ้งมีชื่อปรากฏในทะเบียนบ้านหรือไม่ ก็จะบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐานถึงสาเหตุที่ไปแจ้งแทนเจ้าบ้าน กรณีที่ผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านเป็นผู้เยาว์หรือเสมือนไร้ความ สามารถให้ผู้ปกครองตามกฎหมายเป็นผู้ทำหน้าที่แทน

3. แต่ถ้าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านว่างไม่มีใครมีชื่อในทะเบียน บ้านหากคนที่ครอบครองดูแลบ้านอยู่ขณะนั้นไปแจ้ง นายทะเบียนก็จะบันทึกปากคำไว้ และดำเนินการรับแจ้งให้เช่นกัน

 

การมอบหมาย

กรณีคนที่ชื่อรายการในทะเบียนบ้านระบุว่าเป็นเจ้าบ้านไม่ได้ไปแจ้งตนเอง หรือไม่ได้ให้คนที่มีชื่อ ในทะเบียนบ้านเดียวกัน กับคนไปแจ้งแต่มอบหมายให้บุคคลอื่นไปแจ้งแทน ก็ต้องให้ผู้ได้รับมอบนำเอกสารต่อไปนี้ไปแสดงต่อนายทะเบียนด้วย คือ

1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวของเจ้าบ้านผู้มอบหมาย ถ้าเป็นสำเนา ผู้มอบหมายจะต้องเซ็นชื่อ

รับรองสำเนาไว้ด้วย

2. บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง

3. สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าบ้าน

4. หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน(ถ้ามี)

 

 การแจ้งการเกิด

เมื่อเด็กเกิดใหม่ให้เจ้าบ้านหรือบิดา มารดา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แจ้ง ต่อนายทะเบียนท้องถิ่นภายใน 15 วัน นับแต่วันเกิด ผู้แจ้งเกิดควรดำเนินการดังนี้

1. ให้แจ้งชื่อตัวของเด็กเกิดใหม่ พร้อมกับการแจ้งเกิดและแจ้งชื่อสกุลด้วย พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อเด็ก

2. แจ้ง วัน เดือน ปี และสถานที่เกิด ถ้ามีหนังสือรับรองการเกิดจากสถานพยาบาลให้นำไปแสดงด้วย

3. แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล สัญชาติ และที่อยู่ของบิดาและมารดาของเด็ก

4. แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของผู้แจ้งการเกิดตามหลักฐานสำเนาทะเบียนพร้อมบัตรประจำตัวที่นำไปแสดง

(กรณีผู้แจ้งมิใช่ บิดา มารดา)

หลักฐานที่นำไปแสดง

1. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้าน บิดา มารดา หรือ ผู้แจ้ง

2. สำเนาทะเบียนบ้าน

3. หนังสือรับรองการเกิดจากสถานพยาบาล (ทร. 1/1)

การแจ้งเกิดเกินกำหนด

กรณีคนเกิดแต่ไม่ได้มาแจ้งการเกิดภายใน 15 วัน นับแต่วันเกิด ต้องระวางโทษไม่เกิน 1,000 บาท

การแจ้งตาย

1. แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของผู้ตาย ตามหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวที่นำไปแสดง

2. แจ้ง วัน เดือน ปี และสถานที่ตายพร้อมระบุการตายถ้ามีหนังสือรับรองการตายจากสถานพยาบาล ให้นำไปแสดงด้วย และถ้าทราบชื่อ-สกุล ของบิดา มารดา ของผู้ตายให้แจ้งต่อนายทะเบียนด้วย

3. แจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับศพของผู้ตายด้วย จะเก็บ ฝัง เผา ทำลาย หรือย้ายศพที่ไหน เมื่อไร

4. แจ้งชื่อ ตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของผู้แจ้งการตาย ตามหลักฐานสำเนาทะเบียน บ้านหรือบัตรประจำตัวที่นำไปแสดง

หลักฐานที่นำไปแสดง

1. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง

2. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย (ถ้ามี)

3. หนังสือรับรองการตายจากสถานพยาบาล (ทร. 4/1)

 

การแจ้งการตายเกินกำหนด

หมายถึงกรณีคนตาย แต่ไม่ได้แจ้งการตายภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดนี้ให้ผู้แจ้งการตาย ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ ที่มีการตายหรือพบศพ โดยดำเนินการดังนี้

1. เมื่อนายทะเบียนได้รับคำร้องแล้วจะตรวจสอบคำร้องและเอกสารที่ผู้แจ้งนำไปแสดงแล้วดำเนินการเปรียบเทียบคดีความผิดตามกฏหมายกำหนด

2. สอบสวนสาเหตุจากพยาบาลบุคคล เพื่อให้ทราบถึง วัน เดือน ปี ที่ตาย สถานที่ตาย และผู้รู้เห็นการตาย ตลอดจนสาเหตุที่ไม่แจ้งการตาย ภายในเวลาที่กำหนด

3. รวบรวมหลักฐาน และพิจารณา เมื่อเห็นว่าเชื่อถือได้จะสั่งอนุญาตให้รับแจ้งได้ดำเนินการต่อไป

4. ผู้ใดไม่มาแจ้งตายภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตาย หรือพบศพ ต้องระวางโทษปรับ

การแจ้งการย้ายที่อยู่

         การแจ้งการย้ายที่อยู่ มีกรณีต่างๆ ดังนี้

การย้ายออกเมื่อมีผู้อยู่ในบ้านออกจากบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับ แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ ผู้นั้นย้ายออกไป โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

การย้ายเข้าเมื่อมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ผู้นั้นย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งนี้ให้นำหลักฐานการย้ายออกไปแสดงต่อนายทะเบียนด้วยโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

การแจ้งย้ายปลายทาง การแจ้งย้ายปลายทางเป็นกรณีนอกเหนือจากข้อ 1 ข้อ 2 ซึ่งผู้ย้ายที่อยู่จะเป็นผู้แจ้งการย้ายออก ย้ายเข้า ต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่ไปอยู่ใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายออก โดยนำสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมค่ายินยอมเป็นหนังสือของเจ้าบ้านมาเข้าไปอยู่ใหม่แสดงต่อนายทะเบียนและเสีย ค่าธรรมเนียม 5 บาท

หลักฐานที่จะต้องนำไปแจ้งเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่

การย้ายออก

ให้นำหลักฐานต่อไปนี้ไปแสดง

1. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน

2. บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน

3. บัตรประจำตัวของผู้ได้รับมอบหมายจากเจ้าบ้าน(กรณีการมอบหมายให้ทำหน้าที่แทน)

4. หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน (ถ้ามี)

การย้ายเข้า

ให้นำหลักฐานต่อไปนี้ไปแสดง

1. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน

2. บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน

3. บัตรประจำตัวของผู้ได้รับมอบหมายจากเจ้าบ้าน

4. หนังสือมอบหมายจากเจ้าบ้าน(ถ้ามี)

5. ใบแจ้งย้ายที่อยู่ (ตอนที่ 1 และตอนที่ 2) กรณีใบแจ้งการย้ายที่อยู่สูญหาย หรือชำรุด ในสาระสำคัญก่อนนำไปย้ายเข้า ผู้ย้ายเข้าสามารถขอใบแทนได้ที่นายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่ออกใบแจ้งการย้ายที่อยู่โดยยื่นคำร้อง

การแจ้งย้ายออก ย้ายเข้าเกินกำหนด

เมื่อมีคนในบ้านย้ายออก ย้ายเข้า เจ้าบ้านไม่แจ้งย้ายภายใน 15 วัน นับแต่วันย้ายออก-ย้ายเข้า ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 1,000 บาท

งานบัตรประจำตัวประชาชน

การทำบัตร

 คนไทยซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ จนถึง 70 ปี บริบูรณ์มีชื่อในทะเบียนบ้านต้องไปขอทำบัตรภายใน 60 วันนับแต่วันที่อายุ

ครบ 15 ปีบริบูรณ์

 บัตรประจำตัวประชาชนชำรุด หรือสูญหาย ต้องยื่นคำร้องมีบัตรใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมชำรุด หรือสูญหายทั้งนี้ผู้ถือบัตรต้องแจ้งความบัตรหายก่อน โดยสามารถแจ้งบัตรหายได้ที่งานทะเบียนราษฎร สำนักงานเทศบาล

เมื่อเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล แล้วต้องยื่นคำขอเปลี่ยนบัตรภายใน 60 วันนับแต่วันที่เปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล  อายุของบัตร กำหนดให้ใช้ได้ 6 ปี เมื่อถึงกำหนดสิ้นอายุบัตร ต้องไปติดต่อขอทำบัตรใหม่ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรหมดอายุ 1 วัน แต่บัตรที่ยังไม่หมดอายุ ในวันที่ ผู้ถือต้องมีอายุครบ 70 ปี บริบูรณ์ บัตรนั้นสามารถใช้ได้ ตลอดชีพ

ความผิด

ผู้ถือบัตรผู้ใด ไม่อาจแสดงบัตรได้เมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรของตรวจมีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท

ไม่ยื่นคำขอมีบัตรในกำหนดเวลามีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

บัตรหมดอายุ ไม่ต่อบัตรภายในกำหนด หรือบัตรหายแล้วไม่ขอมีบัตรใหม่ภายในกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

เปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล แล้วไม่ขอเปลี่ยนบัตร ภายในกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ผู้ใดยื่นคำขอมีบัตร โดยแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าเป็น ผู้มีสัญชาติไทย หรือใช้ตนซึ่งตนหมดสิทธิใช้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 100,000 บาท

 

 

SFbBox by psd to html

ติดต่อเรา

  • เลขที่ 151 ถนนรังสิต-ปทุมธานี ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
  • 0-2567-6000
  • Fax : 02-567-6000 ต่อ 131
  • rangsitcity@gmail.com
  • facebook : เทศบาลนครรังสิต
  • Line ID : @rangsitcity
  • Twitter : Rangsit City

Login Form

มี 33 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

ผู้ชม:  
19
เนื้อหา:  
3244
เว็บลิงก์:  
39
เนื้อหาที่เปิดอ่าน:  
4315016
-->