โกฮับ ผู้สร้างตำนานก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตที่ขึ้นชื่อและโด่งดังของปทุมธานี ย้อนผ่านไปประมาณปี พ.ศ. 2500-2510 ใครที่ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินข้ามสะพานข้ามคลองรังสิต จะเห็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบก โดยมีการนำเอาเรือก๋วยเตี๋ยวมาตั้งหน้าร้านหลายเจ้า เปิดแข่งกัน แต่ละร้านก็ขึ้นป้ายเชื่อมโยงกับโกฮับ เช่นโก... หลานโกฮับ โก...เหลนโกฮับ เต็มไปหมด จนไม่ทราบว่าใครเป็นทายาทตัวจริงของโกฮับกันแน่ แต่จากการที่มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมากมาย ในย่านสะพานรังสิต ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นที่รู้จักและเริ่มแพร่หลายออกไปมาแล้ว 86 ปี ผู้คนรุ่นใหม่สมัยนี้คิดว่า โกฮับไม่มีตัวตนจริง คงเป็นชื่อที่เรียกขานกันเล่นๆ หรือเป็นนิทานที่เล่ากันปากต่อปากกันมาเกี่ยวกับเรื่องก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วโกฮับมีตัวตนจริงจากการสืบค้นประวัติความเป็นมา และขายก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นเจ้าแรกอยู่ในคลองรังสิตประยูรศักดิ์หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆว่า คลองรังสิต ซึ่งในสมัยนั้นขายก๋วยเตี๋ยวในราคาชามละ 3 สตางค์



      ข้อมูลประวัติโกฮับที่ค้นคว้าได้อ้างอิงจากผู้รู้ในท้องถิ่น*1 ทราบว่า โกฮับ เป็นชาวจีนไหหลำ แซ่เดิมคือแซ่ภู่ เกิดราวปี พ.ศ.2428 บ้านอยู่ข้างโรงพักเก่าริมทางรถไฟ ติดกับประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีภรรยาไม่ปรากฏชื่อ มีบุตรชาย 1 คน ชื่อนายประสิทธิ์ แซ่ห่าน หรือโกเฮง เคยเป็นทหารเกณฑ์ ขายผ้าอยู่ในตลาดใหม่ดอนเมือง และต่อมาก็ไม่ทราบว่าย้ายถิ่นฐานหรือเสียชีวิตและโกฮับ ก็ยังมีลูกสาวอีกคน และในปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
      ข้อมูลจากเทศบาลนครรังสิตกล่าวว่าโกฮับเริ่มขายก๋วยเตี๋ยวเรือเมื่อเขาอายุได้ราว 30 ปีในช่วงปี พ.ศ.2475 (ผู้ศึกษาว่าน่าจะเป็น พ.ศ.2455 เพราะสุดท้ายอ้างว่าโกฮับเลิกขายตอนอายุ67 ปี พ.ศ. 2494 โกฮับก็จะมีอายุแค่ 40 กว่าปี ก็จะไม่ตรงที่กล่าวอ้าง)โกฮับจะใส่หมวกกุ๋ยเล้ยพายเรือสำปั้นไปตามคลองรังสิตและคลองซอยต่างๆตั้งแต่เช้า พอถึงเวลาเที่ยงวันโกฮับก็จะพายเรือมาจอดขายบริเวณปากคลองสว่าน (ที่เรียกว่าคลองสว่าน เพราะเรือขุดใช้สว่านขนาดใหญ่ไชดินให้เป็นคลอง) ใต้ถุนสะพานแก้วนิมิต หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันติดปากว่าสะพานแก้วในปัจจุบัน


หมวกกุ๋ยเล้ย หรือกุ้ยเล้ย ที่คนจีนในสมัยก่อนนิยมสวมใส่

      เนื่องจากคนงานอู่เรือขุดคลองชลประทานรังสิต หยุดพักเที่ยงจะมาซื้อรับประทาน โกฮับ เลิกขายก๋วยเตี๋ยวเรือเมื่ออายุได้ 67 ปี ตรงกับปี พ.ศ.2494 จากข้อมูลตลาดน้ำนครรังสิตได้ลงอ้างอิงจากการบอกเล่าของ นางเอ็ง บุญนำมากุล อายุ 74 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณตลาดคลองหนึ่ง เล่าว่า “โกฮับขายก๋วยเตี๋ยวตรงบริเวณใต้สะพานแก้วนิมิตสะพานเดิมที่มีครุฑ และมีคำว่าแก้วนิมิตอยู่ข้างใต้ สมัยก่อนก๋วยเตี๋ยวโกฮับ ชามละ 50 สตางค์ – 1 บาท เมื่อสมัยก่อนตอนนั้นอายุ 7 ขวบ เดินกลับจากโรงเรียนศิริศึกษาจะแวะกินเหลือเงินมา 50 สตางค์ก็กินได้ เด็กๆจะขายชามละ 50 สตางค์ ผู้ใหญ่จะขาย 1 บาท โดยโกฮับจะขายคนเดียว บ้านแกอยู่บริเวณประตูระบายน้ำ สมัยก่อนตรงที่โกฮับขายก๋วยเตี๋ยวจะมีเรือขายก๋วยเตี๋ยว 5 ลำ คือ โกฮับขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ตาแป๊ะชุนเกา (ร้านอร่อยเด็ดในปัจจุบัน) ขายก๋วยเตี๋ยวหมู เจ๊กหัวทู่และเจ๊กโอวจิ๋วขายชามละบาท มีโกฮับลำเดียวที่ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และมีเรือขายกาแฟอีก 1 ลำหัวเรือแกมีโอ่งเล็กๆเป็นโอ่งดินใส่น้ำไว้ให้คนกิน มีกระบวยยาวๆ ไว้ให้คนตักกิน ตอนเที่ยงคนงานอู่ก็มากินกันเต็ม ไม่มีโต๊ะเก้าอี้นั่ง มีแต่เก้าอี้ตัวเล็กๆ ตอนหลังโกฮับย้ายไปขายก๋วยเตี๋ยวที่ดอนเมืองเพราะทหารมารับโกฮับไปขายก๋วยเตี๋ยวที่นั่นเลยมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา ซึ่งในเรื่องเล่าของนางเอ็งส่วนที่ว่ามีมีทหารเอารถมายกเรือโกฮับ ไปขายในงานของทหารอากาศที่ดอนเมือง ก็สอดคล้องกับคำบอกเล่าของโกบ้อ หรือนายจรงค์ ธัญญหาญ เจ้าของร้านธัญญมิตร ขายเครื่องสังฆภัณฑ์อยู่ที่ตลาดรังสิต
      นางนันทา ทรายแก้ว อายุ 62 ปี ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยโกฮับขายก๋วยเตี๋ยวที่ตึกตรงสะพานใหม่ โกฮับ มีลูกชาย 1 คน ชื่อ เฮง และลูกสาวอีก 1 คน ตอนอยู่ที่รังสิตไม่ได้ช่วยขายจะมีเพื่อนชื่อ “ยี” บ้านอยู่คลอง 7 ที่ช่วยโกฮับขาย แต่ตอนนี้แต่งงานและไปอยู่จังหวัดอุบลราชธานี และมีคนชื่อ “ต๊อก” เป็นญาติของฉันแต่ไปอยู่พิษณุโลกแล้ว ตอนนั้นที่ฉันไปอยู่กับโกฮับอายุประมาณ 13 – 14 ปี พอเขาจะเอาตึกคืน โกฮับกลับมารังสิต ก็ไม่ได้มาช่วยเพราะเตี่ยไม่ยอมให้ช่วย
      และนอกจากนี้ก็มีคำบอกเล่าของอาม่า (นางสบู่ ) อายุ 88 ปี จบการศึกษาชั้นประถม 4 จากโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร และมีลูก 3 คน ซึ่งปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 2471/97 รังสิต-ปทุมธานี 21 เมื่อก่อนอาศัยอยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ วัดแสงสรรค์ คลอง2 มีอาชีพค้าขายหมู ได้นั่งทบทวนเรื่องราวและเล่าถึงประวัติก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ว่า นายโกฮับมีชื่อเรียกเป็นภาษาจีน ชื่อเต็มคือ นายโกฮับ แซ่ภู่ เป็นชายชาวจีน ตัดผมสั้นๆ ตัวเล็กเป็นคนรูปร่างสันทัด มีความสูงประมาณ 160 เซนติเมตร เป็นคนผิวคล้ำ พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด มีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่ปรากฏว่ามีพี่น้อง ซึ่งโดยสารเรือสำเภามาจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาศัยบ้านอยู่หลังโรงพักเก่า ริมทางรถไฟ ปัจจุบันบ้านหลังนี้ไม่มีสภาพหลงเหลือจากบ้านที่นายโกฮับเคยอยู่แล้ว เป็นบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นมาใหม่ อยู่บริเวณสะพานปูน ศาลไต่ฮงกง เมื่อมาอยู่เมืองไทย ก็มีภรรยาเป็นคนไทย ไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อส่วนใหญ่เรียกกันว่า ซ้อ มีลูกชายชื่อ นายเฮง ส่วนลูกสาว ไม่ปรากฏชื่อ ต่อมาลูกสาว ลูกชายและภรรยาก็ป่วยเสียชีวิต ในสมัยนั้น มีเจ๊กซุงเกา ขายก๋วยเตี๋ยวหมูพายเรือขายด้วยกัน แต่คนนิยมกินก๋วยเตี๋ยวหมูมากกว่าจึงขายหมดก่อน แต่ก๋วยเตี๋ยวเรือนายโกฮับขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อคนไม่นิยมกินกันมากนัก โกฮับจึงต้องพายเรือขายไปเรื่อยๆจึงทำให้คนรู้จักโกฮับมากกว่า ขณะที่นายโกฮับพายเรือขายก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้น จะมีลูกชายช่วยขายบ้างโดยเป็นลูกมือหั่นมันหมูเพื่อนำไปเจียว และจะพายเรือขายอยู่ใต้บริเวณสะพานแก้วนิมิต ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก๋วยเตี๋ยวของนายโกฮับ ลักษณะเรือจะเป็นเรือสำปั้น จะมีโอ่งน้ำ ตั้งที่หัวเรือ มีกระจาดผักอยู่ด้านหลัง มีรสชาติอร่อยถูกปากลูกค้า เพราะจะหั่นเนื้อชิ้นใหญ่ๆ เนื้อก็สด เคล็ดลับความอร่อยของโกฮับคือ น้ำตกเนื้อจะมีลักษณะหั่นชิ้นเนื้อวางไว้บนน้ำแข็ง และเมื่อน้ำแข็งละลายออกมา เลือดของเนื้อสดก็จะตกลงมาทีละน้อย จึงเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตก ขายชามละประมาณ 50 สตางค์ เครื่องปรุง พริกดองใช้มือบดพริกเหมือนเครื่องบดกาแฟ ใส่ซีอิ๊วดำลงในน้ำซุป ในช่วงเวลานั้น สามีของอาม่า (นางสบู่) เป็นผู้ขายหมูให้โกฮับเพื่อไปทำน้ำมันเจียว และโกฮับมีความสนิทสนมกับครอบครัวของอาม่า จึงขอให้ลูกสาวที่ชื่อ เต๊ก (ตรัยรัตน์) และคนที่ชื่อยีซึ่งเคยอาศัยอยู่ที่บ้านอาม่า มีหน้าที่คอยเลี้ยงน้องชาย ไปช่วยกันล้างจานให้โกฮับ
      จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ของคนในท้องที่พบว่า “โกฮับ” นั้นเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือยุคแรกๆที่อยู่ในคลองรังสิตประยูรศักดิ์แห่งนี้



ลักษณะการขายก๋วยเตี๋ยวเรือในรุ่นถัดมาก่อนกลายเป็นก๋วยเตี๋ยวขึ้นบก



      ความโด่งดังก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกโกฮับ ไม่ใช่จะรู้จักกันแค่เพียงคนงานอู่เรือขุดเท่านั้น ชาวดอนเมืองกรุงเทพมหานครก็พากับมารับประทานกันทุกวันคลองรังสิตในสมัยนั้นบ้านเรือนปลูกอยู่ห่างกันไม่หนาแน่นเหมือนเดี๋ยวนี้ น้ำในคลองใสสะอาดมองเห็นตัวปลามาแหวกว่ายกินเศษอาหาร อาจารย์พงศ์สุข นันท์พัฒน์ปรีชา เล่าว่าสมัยมาบรรจุครูอยู่ที่รังสิตใหม่ๆก็ใช้น้ำคลองบริโภคโดยการแกว่งสารส้มและนำมาต้มกินเนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีประปา บริเวณ ริมคลองรังสิต ไม่มีต้นหญ้า ไม่มีผักตบชวา อาจารย์ มองดูโล่งเตียนไม่มีอะไรกั้นหรือปิดบังเป็นทิวทัศน์ที่สะอาดและสวยงาม
      ในช่วงที่โกฮับขายก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่นั้น ก็มีคนหันมาขายก๋วยเตี๋ยวเรือกันมากขึ้น เช่น โกเหลียง โกสุ๋ย โกตี๋ ฯลฯ ซึ่งโกฮับมีสูตรเด็ดเคล็ดลับง่ายๆของก๋วยเตี๋ยวน้ำตก คือการแล่เนื้อวัวเป็นชิ้นเล็กๆแล้วกองวางไว้บนตะแกรงทับด้วยก้อนน้ำแข็ง ใต้ตะแกรงมีภาชนะรองรับเลือดที่ถูกละลายมากับน้ำแข็ง ก็จะนำมาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเพิ่มรสชาติของความอร่อยในการรับประทาน ในปัจจุบันเกือบจะไม่มีให้เห็นวิธีการทำดังกล่าว หลังจากที่โกฮับเลิกขาย คนที่รับช่วงขายก๋วยเตี๋ยวเรือต่อมาคือนายเปี๊ยก และก็มีการเขียนชื่อร้านของตัวเองว่าก๋วยเตี๋ยวเรือต้นตำรับ หลานโกฮับบ้าง เหลนโกฮับบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับการที่จะเขียนชื่อร้านเรียกลูกค้ากันอย่างไร นอกจากนี้ยังโกฮับยังสูตรเคล็ดลับในการทำพริกดอง ด้วยการดองใส่ไหฝังดินประมาณหนึ่งเดือนก็จะตักช้อนเอามาใช้พอวันต่อวัน*2
      ปัจจุบันมีการจดทะเบียนลิขสิทธิ์สูตรก๋วยเตี๋ยวโกฮับ และจัดทำเป็นเว็บไซด์โดยอ้างว่าเป็นทายาทโกฮับ กล่าวถึงประวัติว่าเป็นชาวจีนสามพี่น้อง คนโตชื่อเง็กฮั้ว คนที่สองมีชื่อไทยว่าบุญช่วย เนื่องจากมาแต่งงานกับคนไทย คนที่สามชื่อเง็กจ้อ และนายบุญช่วยนี่เองคือโกฮับ ส่วนชื่อโกฮับนี้อ้างว่าไม่ใช่ชื่อเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกขาน สืบเนื่องมาจากในสมัยนั้นมีการสร้างภาพยนตร์เรื่องแม่นาคพระโขนง ในฉากมีดาราตลกที่โด่งดังคือล้อต๊อกแสดงเป็นคนขายก๋วยเตี๋ยวเรือใช้ชื่อในหนังชื่อว่าโกฮับเวลาพายเรือในภาพยนตร์จะตะโกนร้องว่า “โกฮับไล้เลี่ยว” ทำให้ผู้คนจดจำ และเมื่อนายบุญช่วยพายเรือขายก๋วยเตี๋ยว ผู้คนก็เลยเรียกว่าโกฮับตามอย่างในภาพยนตร์
      จากข้อมูลในส่วนนี้ คณะผู้ค้นคว้าได้ค้นพบใบปิดหนังเรื่องเลือดนอกอก พระเอกคือ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ แสดงนำคู่กับ ปรียา รุ่งเรือง อำนวยการสร้างโดยเสน่ห์ โกมารชุน กำกับการแสดงโดย รังษี ทัศนพยัคฆ์ ฉายครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง และเฉลิมบุรี เริ่มฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2502 แต่จะขัดแย้งกับตัวโกฮับ ที่พายเรือขายในคลองรังสิต เพราะในช่วงปี2500-2512 ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นบกแล้วและตัวโกฮับ ก็น่าจะแก่มากเพราะข้อมูลจากเทศบาลนครรังสิตอ้างว่า โกฮับเลิกขายก๋วยเตี๋ยวเรือเมื่ออายุได้ 67 ปี ตรงกับปี พ.ศ.2494 ขณะเดียวในทางกลับกัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าบทภาพยนตร์ที่ล้อต๊อกใช้ชื่อโกฮับเป็นเพราะชื่อเสียงของ โกฮับก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตโด่งดังจนภาพยนตร์นำไปเลียนแบบก็เป็นได้ อีกทั้งในเรื่องนี้ อาจารย์ไชโย เขียวนนท์ เคยให้สัมภาษณ์แก่คณะผู้จัดทำข้อมูลว่า แกอยู่ข้างๆบ้านโกฮับรู้จักและเห็นหน้าตามาก่อน กรณีโกฮับ หรือนายบุญช่วยจึงเป็นคนละคนกับนายโกอับ แซ่ภู่ ที่คิดสูตรน้ำตกแน่นอน อีกทั้งข้อมูลจากเว็บฯที่อ้างจดลิขสิทธิ์ก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับก็ไม่ได้อ้างถิ่นที่อยู่ว่าเป็นคนพื้นเพรังสิตหรือไม่ ดังนั้น ในเรื่องนี้จึงทำให้เกิดความแคลงใจสำหรับคนเก่าแก่ที่อยู่ในย่านตลาดรังสิตถิ่นที่อยู่เดิมของโกฮับไม่น้อย